BOSTWICK BOS-PA2000D

ยังคงบทบาทความเป็นผู้นำวงการเครื่องเสียงรถยนต์ในประเทศไทยมาโดยตลอด ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนา ปรับเปลี่ยนโฉม เพิ่มประสิทธิภาพ และคุณภาพเหนือราคาหลายเท่าตัว เพื่อตอบสนองรองรับนักเล่นเครื่องเสียงทุกระดับมาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพาเวอร์แอมป์ ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมของตลาดในประเทศไทยเป็นอย่างดี...ที่กล่าวมานี้เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก BOSTWICK เครื่องเสียงรถยนต์ที่ไม่จำเป็นต้องอรรถาธิบายคุณภาพ!

สร้างรายได้จากการแชร์ลิงก์ของคุณ!

ดังเช่นผลิตภัณฑ์เพาเวอร์แอมป์  อนุกรม BOS-PA  ที่มีการปรับโฉมให้ดาทันสมัยและดูหรูหรามากกว่าเดิม ขอแนะนำ BOS-PA2000D เพาเวอร์แอมป์ คลาส D โมโนบล็อก  จาก BOSTWICK ที่ได้รับการปรับโฉมของตัวถังเครื่อง ให้มีความสวยงาม หรูหราเน้นประโยชน์ใช้สอบภายใต้สนนราคาที่สมเหตุสมผล

บรรจุภัณฑ์โทนดำดูดุดันรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่BOSTWICK ออกแบบสำหรับเพาเวอร์แอมป์รุ่นนี้  มุ่งเน้นโทนสีเข้ม โดยใช้พื้นกล่องด้านนอกเป็นสีดำ เพื่อให้ดูดุดัน ตัดขอบด้วยสีเทาเป็นลายเส้นรอบกล่อง เป็นการเพิ่มสีสันให้กับตัวกล่องให้ดูดูสวยงาม ด้านบนฝากล่องเน้นโลโกผลิตภัณฑ์เหมือนจริงสีเทาเงินบนพื้นดำ มีเส้นแถบสีแดง กับสีเทา ดูโดดเด่นสะดุดตา  พร้อมด้วยชื่อรุ่นของผลิตภัณฑ์ ด้วยสีแดงล้อมขอบด้วยสีขาวด้านมุมซ้ายล่าง ชัดเจนมองเห็นได้เด่นชัด เพิ่มบุคลิกความเป็น BOSTWICKให้กับเพาเวอร์แอมป์ BOSTWICK ได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านข้างของกล่อง วางเลย์-เอาท์ดูเรียบร้อยสะอาดตา เป็นโลโกละฃื่อรุ่นสีแดง พร้อมข้อมูลจำเพาะของตัวเตรื่องสีขาว

ภายในกล่อง เมื่อเปิดฝาขึ้นมา จะพบหนังสือคู่มือวางอยู่บนกล่องกระดาษแบบลูกฟูกหนา ที่ห่อหุ้มเพาเวอร์แอมป์เอาไว้อย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันการกระแทก และเมื่อเปิดฝากระดาษขึ้น ก็จะพบกับตัวเพาเวอร์แอมป์ที่ห่อด้วยพลาสติคหนา-นุ่มไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนต่างๆ.....เฉพาะแค่บรรจุภัณฑ์ก็ออกแบบมาดูสวยงาม ทันสมัย และก็เอาใจใส่พิถีพิถันกันทุกขั้นตอนเลยละครับ!

รูปลักษณ์ทั่วไป
ตัวเครื่องของ BOS-PA2000D ออกแบบมาเน้นเรียบหรูให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อน...โครงสร้างของตัวเครื่อง ของเพาเวอร์แอมปุ์ร่นนี้ แต่สำหรับตัวถังเครื่องเพาเวอร์แอมป์อนุกรม BOS-PA ใหม่เองนั้น เป็นตัวถังแบบฉีดขึ้นรูปเช่นกัน แต่เป็นแบบรูปทรงหงาย มีครีบระบายความร้อนด้านข้าง ตัวถังเครื่องหลัก พื้นผิวภายนอกมีการอโนไดซ์เป็นสีบรอนซ์เงิน ส่วนด้านบนจะเป็นอลูมิเนียมฉีดขึ้นรูป ทำการอโนไดซ์ผิวและมีแผ่นเทมเพลท อลูมิเนียมสีทองกัดลายโลโก BOSTWICK ดูโดดเด่นสะดุดตา

ระบบควบคุมมีให้พร้อมมูลการออกแบบชุดแผงควบคุมการทำงานฝั่งขาเข้า ได้รับการออกแบบอย่างถึงพร้อมโดยเน้นการประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลาย  ทั้ง ช่งอตอ่ระบอินพุทแบบRCA และช่องปล่อยออกสัญญษรLine Out สำหรับต่อพ่วงแอมปลิฟายล์

จุดเด่นของชุดปุ่มควบคุมการทำงานของเพาเวอร์แอมป์รุ่นนี้คือ มีมาให้ครบทั้งปุ่มปรับเกน ปุ่มปรับฟังก์ชั่นซับโซนิก  ปุ่มปรับจุดตัด LPF ปุ่มปรับยกเบส ปุ่มปรับเฟส อย่างนี้สามารถประยุกต์ใช้งานในรูปแบบระบบเสียง ไบ-แอมป์ ได้อย่างลงตัวโดยเฉพาะการขับลำโพงซับวูฟเฟอร์

การออกแบบวงจร การออกแบบโครงสร้างและวงจรภาคการทำงานภายในของ BOS-PA2000D ได้รับการออกแบบอย่าพิถีพิถันโดยเน้นสมรรถนะการทำงาน การถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนที่ถึงพร้อม ภายใต้รายละเอียดการออกแบบที่น่าสนใจ สำหรับโครงสร้างภายในเป็นการออกแบบในลักษณะออนบอร์ด ด้วยมิติตัวเครื่องที่ค่อนข้างใหญ่ ให้สรีระที่พร้อมต่อการอัดฉีดพลังขับเคลื่อนอย่างถึงพร้อม การจัดวางวงจรภายในจึงสามารถออกแบบจัดวางอย่างเป็นระเบียบเน้นความสมมาตร ผ่านแผ่นวงจรพิมพ์ ที่มีคุณภาพลอมาดูกันว่าแต่ละภาคการทำงานมีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

-วงจรแหล่งจ่ายไฟ ระบบสวิทช์ชิ่ง ใช้พื้นที่ภายในแผ่นวงจรพิมพ์ กว่า 1 ใน 3 ใมช้ขดลววงแหวนขนาดใหญ่ ขาเข้ามีตัวเก็บประจุ อิเล็กโทรไลติกความจุ 2200 ไมโครฟารัด 35 โวลท์ จำนวน 12 ตัวรับหน้าที่การกรองแรงดันให้ราบเรียบ สำหรับมอสเฟทที่ใช้มีมากถึง 14 ตัว เพื่อการทำงานในการอัดฉีดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนวจรกำเนิดสัญญาณสวิทช์ชิ่ง ใช้ชิพ ไอ.ซี. TL494 รับหน้าที่นี้ ขาออกของวงจรแลห่งจ่ายไฟมีตัวเก็บประจุค่าความจุสูง 3300 ไมโครฟารัด 100 โวลท์ 4 ตัวรับผิดชอบการทำงาน

-วงจรขาเข้า ใช้ชิพ ไอ.ซี.ออปแอมป์ TL072 จำนวนถึง 8 ตัวรับผิดชอบการทำงาน

-วงจรภาคขยาย ระบบคลาส D จัดเต็มในภาคขาเข้าหรือภาคต้นเป็นระบบโมดูล ก่อนส่งทอดการทำงานไปยังภาคขับและภาคขยายภาคสุดท้ายที่ใช้ทรานซิสเตอร์เกนการขยายสูง ถึง 10 คู่ด้วยกัน

การทดสอบ/ผลการทดสอบทดสอบในห้องฟัง โดยต่อ BOS-PA2000D เข้าร่วมกับชุดทดสอบสามัญประจำห้อง ประกอบด้วย เฮดยูนิต JVC KD-SH1000..ลำโพงกลางแหลม BOSTWICK BOS-EX10DVC และสายนำสัญญาณ AR Interconnect...ก่อนการทดสอบ ก็มีการเบิร์นอิน อุ่นเครื่องกันตามปกดิ โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 ชั่วโมง เพราะเพาเวอร์แอมป์ที่ได้รับมานั้น เป็นของใหม่แกะกล่อง เอี่ยมอ่องอรทัย ยังไม่เคยผ่านการใช้งามมาก่อน...การเบิร์นอินก็ใช้วิธีเปิดเครื่องทิ้งสลับกับการฟังควบคู่กันไป และก่อนจะเริ่มการทดสอบ มีการเปิดวอร์มไว้อีกราว 4 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวเครื่องยืดเส้นยืดสาย คลายตัวได้อย่างเต็มที่

สำหรับผลการทดสอบพบว่าเพาเวอร์แอมป์ Class D เครื่องนี้ ถ่ายทอดเสียงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีความลื่นไหลของเสียง, มีรอยต่อของเสียงที่เนียน ไม่มี ให้เสียงทุ้มที่กระชับ ให้โฟกัสชัดคม มีความเป็นตัวตนสูงทีเดียว อีกทั้งยังขึ้นรูปทรงเป็นสามมิติได้อย่างน่าพอใจ รวมปถึงแจกแจงการไล่ระดับอ่อน-แก่ของเสียง และแยกแยะน้ำหนักเสียงได้อย่างชัดเจน การขับเสียงในย่านทุ้มต่ำก็ทำออกมาได้น่าพอใจ คือขับออกมาให้ลงต่ำได้เต็มความสามารถของลำโพงซับวูฟเฟอร์ที่จะทำได้...เสียงกลองจากย่านมิดเบส ฟังได้สนุกสนานมีจังหวะจะโคนที่ชัดเจนดีเยี่ยม ขนาดของตัวเสียงทุ้มเน้นหัวโน๊ตให้ฉับไว ให้ความเป็นดนตรีในอัตตาที่สูงมากและฟังได้สนุกสนาน

กับแนวเพลงที่มีหัวโน๊ตเฉียบคม...จะให้เสียงกลองที่มีขนาดใหญ่โตและมีตำแหน่งแห่งหนที่ชัดเจน ย้ำเน้นอิมแพคท์แรกกระทบให้ชัดคม เสียงกลองที่ได้ให้เสียงสะท้อนออกมาจากหนังกลองที่สัมผัสได้ หนังกลองตึงพอดีพอดี ตัวเสียงควบแน่นกลมกลึง ฟังได้ระรื่นหูทีเดียว - - เสียงของดับเบิ้ลเบส ก็ถ่ายมวลเสียงที่อิ่มใหญ่ของเครื่องดนตรีชนิดนี้ออกมาสมกับขนาดที่ควรจะเป็น เรียกได้ว่าจำลองโครงสร้างของเครื่องดนตรีและน้ำเสียงออกมาชนิดที่ต้องชื่นกันละครับ

สรุป
BOS-PA2000D เป็นเพาเวอร์แอมป์ Class D ที่ให้กำลังขับกระชับ ถ่ายทอดเบสได้ดีเกินตัว ให้ความหนักแน่นของเสี่ยงที่ดี ส่วนของการปรับตั้ค่าอิเลกทรอนิกส์ครอสทำได้ดี...สิ่งที่น่าทึ่งของเพาเวอร์แอมป์รุ่นนี้ก็คือ การถ่ายทอดพลังขับเคลื่อน ที่ทำได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด อีกทั้งความร้อก็มีไม่มากนัก เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ระบายความร้อนได้ดี...นอกจากนั้นการมีทั้งวงจรกรองซับโซนิกและฟังก์ชั่นยกบเสช่วยเพิ่มวามยืดหยุ่นในการใช้งานมากยิ่งขึ้นสามารถปปรับจุนเบสได้ตรงตามรสนิยมการฟังมากยิ่งขึ้น

สร้างรายได้จากการแชร์ลิงก์ของคุณ!